2554-07-10

between

ความรักคงไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบที่มีแต่ความสวยงาม อยู่เสมอ

บางครั้งเราก็ต้องเผชิญกับบางอารมณ์ที่มันอยู่เหนือเหตุผลของเราสองคน

บางครั้งเราก็อยู่ในอารมณ์"น้อยใจ" ได้แล้วแปรเปลี่ยนมันเป็นคำพูดที่ลืมนึกถึงความรู้สึกคนฟัง

บางครั้งเราก็พูดอะไรที่เรารู้สึก โดยลืมที่จะหยุดคิดสักพัก ด้วยความเข้าใจ

คงไม่มีใครผิด ใครถูกในความรัก ในเมื่อเราเป็นคนเลือกที่จะ"รัก" ไปแล้ว

โดยที่เราก็ยังไม่รูว่าเราต้องใช้ความ"เข้าใจ" แค่ไหน

ใช้ความ"อดทน"มากเท่าไร

ต้องรู้จัก"อภัย" กี่พันครั้ง

ในความรักของเรา แต่ถึงไม่ว่ายังไง เราก็พร้อมจะ เข้าใจ พร้อมจะอดทน พร้อมที่จะอภัยไม่ว่ามันจะเป็นร้อยกี่พันครั้ง

The begin....,again

july 1,2011

เป็นวันที่ได้พบกับเธอ ได้เห็นหน้ากันเป็นครั้งแรก ตลอดระยะเวลาที่เราคุยกันในฐานะคนรู้จักมาช่วงเวลาหนึ่ง

บอกไม่ถูกว่าอารมณ์ตอนนั้นเป็นแบบไหน แต่ก็รู้สึกดีที่ได้อยู่ใกล้ๆกับเธอ...

2552-11-05

ประโยค ณ. ขณะหนึ่ง

เชื่อว่าทุกคนต้องเคยหาคำพูดมากมาย มาอธิบาย เกี่ยวกับความรัก คุณเคยไหมที่พยายามจะหาเหตุผลมากมาย กี่ถ้อยคำที่คุณอยากจะพรรณาออกมาให้คนที่คุณรักได้รับรู้ รับรู้ว่าความรักที่คุณมีให้กับเขา มันมากมายแค่ไหน เพียงเพราะคุณหวังว่าเขาจะเห็นถึงความรักของคุณ ให้เขาเห็นใจความรักของคุณ
......
...
..
แล้วคุณเคยไหม ที่รู้สึกเหมือนตัวคุณมันโง่เต่าตุ่น เพ้อเจ้อไร้สาระ แค่ไหน คุณเคยไหมที่สมองของคุณโลดแล่นเร็ว พอๆกับจิตใจ ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณพยายามจะอธิบายให้คนที่คุณรัก กี่ถ้อยคำ มากมาย แต่สุดท้ายคุณก็ต้องลดทอนความรู้สึกที่พรั่งพรูของคุณ กลั่นกรองออกมา ให้มันเหลือเป็นแค่ประโยคสั้นๆ ง่ายๆ

ประโยคที่รวมไว้ทุกสิ่งอย่าง

แล้วคุณเคยคิดจะบอกประโยคนั้น ไม่สิ คุณและทุกคน รวมถึง เราก็คงจะเคยคิด
.......
....
...
แต่เราได้บอกออกไป ตามที่เราคิดหรือเปล่า ???

2552-07-06

Another Day in Paradise

"Another Day in Paradise" เป็นสำนวนภาษาอังกฤษที่ใช้พูดเล่นกันในหมู่เพื่อนฝูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่ทำงานด้วยกัน รู้สึกเบื่อหน่ายกับงานที่ทำ หรือนักเรียนที่เบื่อหน่ายกับการเข้าเรียนในแต่ละวัน พอเจอหน้ากันก็จะพูดลอยๆ ขึ้นว่า "Another Day in Paradise" คล้ายกับการรำพึง เชิงบ่น หรือประชดว่า "ต้องเจอแบบนี้ ในวิมานอันสวยหรู อีกวันหนึ่งแล้วสินะ ประมาณนั้น ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว เบื่อจนแทบทนไม่ไหว ไม่อยากมาทำงาน หรือไม่อยากมาเรียนหนังสือ แต่ก็จำต้องเรียน หรือจำใจต้องทำงาน นั่นเอง คนอเมริกันส่วนมากจะบ่นกับงานที่ทำอยู่ทุกวัน ทั้งๆ ที่ไปไหนก็ไม่ได้ ลาออกก็ไม่ได้ เลยกลายเป็นสำนวนที่ใช้กันโดยทั่วไป และผู้ฟังเข้าใจกันดีว่า "กูล่ะเบื่อ"
ตามรูปประโยคที่ไม่มีเลศนัยแอบแฝง จะแปลว่า "อีกวันหนึ่งในวิมาน" จริงๆ ขึ้นอยู่กับเจตนาของผู้พูด และเหตุการณ์ในขณะนั้น อย่างเช่นเรากำลังไปท่องเทียวในสถานที่สวยหรู และรู้สึกเพลิดเพลินกับทุกๆ อย่างรอบๆ ตัว แล้วพูดประโยคนี้ออกมา ย่อมหมายถึงความสุขกาย สบายใจในอีกวันหนึ่งที่กำลังได้รับ ผู้ฟังก็ย่อมเข้าใจความหมายของเราได้ดี